ดับทุกข์ทางโลกด้วยธรรมะ
ไม่มีใครไหนเลยจะล่วงรู้ว่า วันเวลาข้างหน้าว่าจะเป็นเช่นไร ความจนหรือที่ทำให้เกิดทุกข์ ความรวยหรือที่ทำให้เกิดสุข ย่อมไม่มีใครรู้ถ่องแท้ หากไม่ประสบด้วยตนเอง ก็จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ความพอเพียงนั้นคือที่มาแห่งความสุขที่แท้จริง การเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดที่สูงกว่าที่คนส่วนใหญ่ต่างเชื่อกันว่าจะนำพาทุกอย่างเข้ามาและช่วยทำให้ชีวิตนั้นดีขึ้น อาจไม่แน่นอนเสมอไป เราต้องปรับใจเรียนรู้ให้เท่าทันสัจธรรมแห่งโลกธรรมทั้ง 8 แห่งการเปลี่ยนแปลง ว่าไม่มีสิ่งใดแน่นอนเป็นของเราเอง ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป เป็นวัฏจักรอยู่เช่นนั้น เพราะเมื่อมีลาภก็ย่อมมีวันที่เสื่อมลาภ มียศก็ย่อมมีวันที่เสื่อมยศ เมื่อมีสุขก็ย่อมพบพานกับทุกข์ เมื่อมีสรรเสริญก็ย่อมมีนินทา
“ในดีมีเสีย ในเสียมีดี” …เมื่อทุกข์มากระทบ ย่อมกระเทือนมาสู่ใจ อย่าหนีปัญหาแล้ววิ่งเข้าหาธรรมะเพื่อหาทางสงบ แม้สงบได้ก็อาจไม่นาน ถ้าต้องตกอยู่ในวังวนเดิม ๆ อีก แต่จงใช้ธรรมะในการประคองสติ ช่วยจัดระเบียบความคิดและช่วยขัดเกลาจิตใจให้ดำเนินชีวิตไปได้ดียิ่งๆขึ้น ขอจงคิดเสียว่า ทุกช่วงเวลาที่ผ่านมา เราได้ทำดีที่สุดแล้ว ขอจงวางใจให้เป็นกลาง ไม่โหยหา ไม่ยึดติด ไม่โทษความจน ไม่โทษความรวย ไม่โทษความทุกข์ ไม่โทษความสุข ทุกสิ่งล้วนคือครูผู้สอนสัจธรรมให้แก่เรา ว่าไม่มีใครย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้ และจงพอใจกับสิ่งที่เป็นไปในปัจจุบันขณะ คิดในแง่ที่ดีว่า แม้ในยามทรุด เรายังประคองตัวไว้ได้ก็นับว่าดีมากแล้ว และใช้สติในการดำเนินชีวิตต่อไป
…. พอใจในสิ่งที่มี ยินดีกับสิ่งที่ผ่าน ไม่อาลัยกับสิ่งที่จาก …
ข้อคิดจากพระครูธรรมธร ดร.สาคร สุวฑ.ฒโน